“ทีนี้ปัญหามันก็เกิด ว่าแล้วเราจะจัดการอย่างไร ใบสมัครจำนวนมากขนาดนี้ เยอะเหมือนทายผลบอลโลกเลยนะครับ เริ่มต้นแค่แกะซองจดหมายก็เป็นเรื่องใหญ่แล้ว ธนาคารก็ต้องจ้างเด็กฝึกงานมานั่งแกะซองจดหมาย แล้วก็คีย์ข้อมูลลงไปในโปรแกรม excel ทีละคนๆ พอคีย์ข้อมูลเสร็จ ก็ต้องให้พนักงานเรามานั่งตรวจซ้ำอีกว่าที่น้องคีย์ข้อมูลมาตรงกับใบสมัครหรือเปล่า
            “หลังจากคีย์ข้อมูลเสร็จ ก็ต้องมานั่งไล่ screen ข้อมูลในใบสมัครทีละใบ ซึ่งก็ยากอีก เพราะจากใบสมัครที่ส่งเข้ามาเราดูไม่รู้ว่าน้องที่เพิ่งเรียนจบมา เขาจบจริงหรือเปล่า วุฒิของน้องบางคนที่ส่งเข้ามาก็ยังไม่จบ บางคนก็ไม่ใช่ตามที่เราต้องการ พนักงานเราก็ต้องนั่งทำงานมือไปทีละคน ทีละคน กว่าจะรวบรวมใบสมัครทั้งหมดได้ครบก็ใช้เวลาเป็นเดือน
            “หลังจากนั้นก็ต้องมาประกาศผลรายชื่อผู้ที่ผ่านเกณฑ์ตามที่ธนาคารกำหนด เพื่อจะเรียกให้เข้ามาสอบข้อเขียน ซึ่งการสอบของธนาคารจะเปิดสอบทั่วประเทศ ฉะนั้นก็จะมีสนามสอบในแต่ละภูมิภาค ตั้งแต่ภาคเหนือลงไปถึงภาคใต้ ค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้ก็ค่อนข้างสูง ทั้งค่าสถานที่สอบ ค่าแบบทดสอบ ค่าประมวลผลสอบ ไหนจะค่าใช้จ่ายของกรรมการที่จะต้องเดินทางไปคุมสอบ มีสอบหลายๆ ครั้งเข้ารวมกันแล้วก็เป็นล้านหรือหลายล้านบาท
            “สอบเสร็จ ประกาศผลเสร็จ ก็เรียกเข้ามาสัมภาษณ์ สัมภาษณ์ได้คนแล้วก็ต้องส่งเรื่องต่อให้ทาง line ว่าจะเลือกคนไหนเข้ามาคุยบ้าง เมื่อทาง line ตัดสินใจเสร็จก็ต้องส่งเรื่องกลับมาทางฝ่ายบุคคลให้ทำเรื่องต่ออีก ขั้นตอนทั้งหมดรวมๆ กันแล้วใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน กว่าจะใส่คนลงในอัตราว่างได้แต่ละตำแหน่งงานได้หนึ่งคน ใช้เวลา ใช้คน ใช้เงินมากถึงขนาดนี้นะครับ”